วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

MALEFICENT- เรื่องย่อแบบละเอียดยิบ+ รีวิวฉบับสาวช่างเม้าท์ (spoil)

 

สวัสดีค่า

วันนี้มิ้นท์จะมาเม้าท์ Maleficent ที่เป็นที่กรี๊ดกร๊าดของประชาชีมาซักพัก ซึ่งบทความนี้มิ้นท์เคยเอาลง pantip ไปแบ้วแต่ตอนนี้ว่าจะมาเขียนบล๊อคนี้แทนแล้ว ถ้าใครยังไม่ได้ดูและไม่อยากจะโดนสปอยปิดหน้านี้ไปเลย เพราะ สปอย อย่างแรงนะค้า

เริ่มที่เรื่องย่อละเอียดสำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปดูหรือดูแล้วและอยากจะรำลึกถึงอีกซักรอบ


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว......




เราเตือนคุณแล้ว




กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเมืองสองเมืองอยู่ติดกัน เมืองหนึ่งเป็นเมืองมนุษย์ธรรมดา อีกเมืองเป็นดินแดนแห่งเวทย์มนต์ชื่อว่า มัวส์

วันหนึ่งสเตฟาน เด็กชายซึ่งพยายามจะขโมยหินแม่น้ำจากมัวส์ได้รู้จักกับมาลิฟิเซนท์และกลายมาเป็นเพื่อนกันเรื่อยมา ในวันเกิดครบสิบหกปีของมาลิฟิเซนท์ สเตฟานได้มอบ(ที่เขาบอกว่า)จุมพิตแห่งรักแท้ให้แก่เธอ แต่หลังจากนั้นสเตฟานก็หายไปหลงระเริงกับโลกมนุษย์ ส่วนมาลิฟิเซนท์เติบโตขึ้นเป็นนางฟ้าผู้พิทักษ์แห่งมัวส์

พระราชาแห่งเมืองมนุษย์จ้องจะบุกมัวส์แต่ไม่สามารถทำสำเร็จเพราะมาลิฟิเซนท์และกองทัพมัวส์คอบกันไว้ พระราชาจึงออกคำสั่งว่าใครที่สามารถฆ่ามาลิฟิเซนท์ได้จะได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ สตีเฟนผู้ละโมบในอำนาจจึงไปหาแม่นางมาลี ทำท่าว่าหวังดีเตือนให้ระวังตัวแล้วก็หลอกให้ดื่มยานอนหลับ เสร็จแล้วก็ตัดปีกนางไป

มาลิฟิเซนท์ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดโกรธแค้นและเข้าสู่ด้านดาร์ก นางช่วยชีวิตอีกาตัวหนึ่งไว้และมันกลายมาเป็นผู้ช่วยคอยบอกเหตุการณ์ต่างๆให้นาง(เป็นตัวปล่อยมุขของเรื่องด้วย) หลังจากสเตฟานขึ้นครองราชย์ ราชินีก็ประสูติพระธิดา แน่นอนว่าเธอไม่ได้ถูกรับเชิญไปพิธีจุ่มของเจ้าหญิงออโรร่า

แล้วเหตุการณ์ก็เหมือนในการ์ตูนนั่นคือ ผู้คนมากมายมาร่วมยินดีที่พิธี นางฟ้าทั้งสามมาร่วมอวยพร แต่ก่อนที่นางฟ้าองค์สุดท้ายจะให้พร มาลิฟิเซนท์ก็ปรากฎตัวขึ้นและสาปให้ในวันเกิดครบสิบหกปี เจ้าหญิงจะถูกเข็มปั่นด้ายแทงนิ้วและนอนหลับเหมือนตาย มีเพียงจุมพิตจากรักแท้เท่านั้นที่ถอนคำสาปได้ เป็นการตบหน้าสเตฟานสวยๆแต่โดนเต็มๆ

หลังจากนั้นนางฟ้าทั้งสามก็พาออโรร่าไปอยู่ที่กระท่อมกลางป่า แต่มีหรือที่นางฟ้า(ติ๊งต๊อง)ทั้งสามที่ปกติวันๆเอาแต่บินไปบินมาและคุยกับดอกไม้จะสามารถเลี้ยงดูเด็กได้ หนำซ้ำมาลิฟิเซ้นท์ยังหากระท่อมเจอตั้งแต่วันแรกที่พวกนางมาถึงแล้ว ไม่ได้เจอเพราะนางฟ้าเสกสีใส่ชุดราตรี มาลิฟิเซนท์ทนสกิลการเลี้ยงเด็กของสามนางฟ้าไม่ได้ นางจึงคอยแอบช่วยเลี้ยงออโรร่า เช่น ให้อีกาเอานมไปให้ เสกเถาวัลย์ให้รับตัวออโรร่าไว้ตอนนางวิ่งตามผีเสื้อจนตกหน้าผาขณะที่สามนางฟ้ากำลังนั่งเม้าท์มอยส์ โดยทั้งหมดนี้สามนางฟ้าไม่รู้เรื่องอะไรเล้ยแถมยังถูกมาลิฟิเซ้นท์แกล้งเสกฝนใส่อีกด้วย

กล่าวถึงราชาสเตฟาน หลังจากที่มาลิฟิเซนท์ปรากฎตัวในวันนั้น เขาสั่งให้เอาเครื่องปั่นด้ายทุกเครื่องในอาณาจักรมาเผาทิ้งและตามล่ามาลิฟิเซนท์ คือสเตฟานเหมือนจะสติฟั่นเฟื่อนในนานวันเข้า เขามักจะนั่งคุยกับปีกที่ขโมยมา ขนาดพระราชินีจะตายยังไม่สนใจ

เวลาล่วงมาจนเกือบจะครบสิบหกปี วันหนึ่งออโรร่าไปด้อมๆมองๆด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ป่าหนามซึ่งมาลิฟิเซนท์สร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องมัวส์จากการรุกรานของทหารที่สเตฟานส่งมา มาลิฟิเซ้นท์จึงทำให้นางหลับใหลและพาเข้าไปในมัวส์เพื่อให้นางได้เล่นสนุกในนั้น แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ออโรร่าเหลือบไปเห็นมาลิฟิเซนท์ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในความมืด เจ้าหญิงก็เรียกให้มาลิฟิเซนท์ออกมา มาลิฟิเซนท์เลยสนองความต้องการ แต่แทนที่เจ้าหญิงจะกลัว นางกลับยิ้มแย้มดีใจ เรียกแม่นางว่านางฟ้าแม่ทูนหัว ผู้คอยดูแลนางมาตลอดทั้งชีวิต มาลิฟิเซนท์ก็เอ๋อสิ ที่ผ่านมาเธอเป็นนางฟ้าปีศาจ มีแต่คนกลัวเธอ แต่แม่หนูคนนี้กลับดีใจที่ได้เจอเธอ หลังจากนั้นมาลิฟิเซนท์ก็พาออโรร่ามาเล่นที่มัวส์ทุกคืนและพากลับไปส่งที่เตียง มาลิฟิเซนท์รู้ตัวว่าหลงรักแม่หนูออโรร่าเข้าให้แล้ว จึงถอนคำสาปแต่คำสาปไม่สามารถลบเลือนได้เพราะตอนสาป นางพูดว่า “อำนาจใดก็ไม่สามารถถอนคำสาปได้”

ในวันก่อนวันเกิดครบสิบหกปี ออโรร่าบังเอิญเจอเจ้าชายฟิลิปที่กลางป่า ทั้งสองก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้ง ก่อนที่ออโรร่ากลับกระท่อมไปบอกป้านางฟ้าว่าตนตัดสินใจไปอยู่ที่มัวส์ พวกป้าๆเลยเผลอหลุดความลับเรื่องฐานะที่แท้จริงและคำสาป เจ้าหญิงเลยหัวใจสลายที่นางฟ้าแม่ทูนหัวของเธอกลับกลายเป็นคนสาปเธอ ออโรร่าตรงกลับวังไปกอดเสด็จพ่อสเตฟาน แต่สเตฟานซึ่งแทบจะไม่สนใจเธอ สั่งขังเธอไว้ในห้อง แล้วกลับไปเตรียมตัวสู้กับมาลิฟิเซนท์แทน แต่คำสาปก็เป็นคำสาป  เธอโดนเข็มทิ่มนิ้วและหลับไป

มาลิฟิเซนท์ผู้ไม่เชื่อในรักแท้จึงฝากความหวังไว้กับเจ้าชายฟิลิป แต่ออโรร่าไม่ฟื้น มาลิฟิเซนท์หัวใจสลาย เธอบอกกับเจ้าหญิงผู้หลับใหลว่า เธอเสียใจกับเรื่องทั้งหมดและจะคิดถึงออโรร่า ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากเจ้าหญิง โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ออโรร่าตื่นขึ้นมาจากรักแท้ที่มาลิฟิเซนท์มีให้แก่เธอ ไม่ใช่ความรักหนุ่มสาวแต่เป็นความรักประหนึ่งแม่ลูก (แล้วเจ้าชายชั้นล่ะ  ม่ายยยยยยยย)

ระหว่างทางกลับมัวส์ ทหารและสเตฟานโจมตีมาลิฟิเซนท์ด้วยอาวุธที่ทำจากโลหะกันนางฟ้าทำให้มาลิฟิเซนท์เสียเปรียบเป็นอย่างมาก ยังดีที่เธอเสกอีกาเป็นมังกร แต่ในขณะที่สเตฟานกำลังจะฆ่าเธอ ออโรร่าซึ่งหลบไปอยู่ในห้องเก็บปีกได้ผลักกล้องแก้วใส่ปีกแตก (และปีกก็บินไปหาเจ้าของเองด้วยวุ้ย) มาลิฟิเซนท์จึงกลับมามีปีกอีกครั้ง นางบินลากสเตฟานขึ้นไปบนหอคอย เพื่อจบการต่อสู้ แต่สเตฟานไม่ยอมจบสุดท้ายจึงตกหอคอยตาย

ต่อมา ออโรร่ากลายมาเป็นราชินีของทั้งเมืองมนุษย์และมัวส์ ยุติความบาดหมางของสองเมือง ส่วนมาลิฟิเซนท์ก็กลับมามีปีกอีกครั้ง

                                    And they lived happily ever after
                                                                END




ต่อไปจะเป็นรีวิวกึ่งๆสปอย

-         การแสดงของแองเจลิน่า โจลี้นั้นสะพรึงมาก ทำให้เราเชื่อว่านางคือมาลิฟิเซนท์จริงๆ เป้ะเว่อร์ๆ แค่ยืนเฉยๆก็สะพรึงละ

-         เรารู้สึกว่า Elle Fanning ไม่ค่อยเหมาะกับการแสดงเป็นออโรร่าเท่าไหร่ คือนางน่ารักนะแต่ชมว่าสวยได้ไม่เต็มปาก แล้วเรารู้สึกว่าออโรร่าต้องสวยมากกว่าน่ารัก แต่การแสดงของนางดีนะ ดูเพลินดี เห็นแล้วเกลียดไม่ลง แต่เพื่อนไต้หวันกระซิบว่า Dakota พี่สาวนางแสดงเก่งกว่า

-         เจ้าชายฟิลิปหล่อมาก ตอนโผล่เข้ามาในฉากครั้งแรกแล้วแบบ เง้อ...หล่อง่ะ ตอนนั้นเพ้อไปว่าออโรร่าคือชั้นนี่หว่า 555 เหมาะกับบทมาก เสียดายบทและความสำคัญน้อยไปหน่อย เอ่อ ผมยาวไปนิดด้วยนะ

-         เจ้าหญิงนิทราเวอร์ชั่นนี้ นางฟ้าติ๊งต๊องน่ารำคาญ เห็นแล้วอยากจะเตะลงหีบ ฮ่าๆๆๆๆ ฉะนั้นตอนที่มาลิฟิเซ้นท์แกล้งเสกฝนใส่นางฟ้าทั้งสาม ชั้นโคดสะใจเลยว่ะ555

-         CG ดีมาก ฉากและคอสตูมอลังการสุดๆ

-         ฉากต่อสู้มันส์มาก

-         ฉากพิธีจุ่มเป็นฉากที่ออกมาจากการ์ตูน มาลิฟิเซนท์เดินกรีดกรายได้สง่าสพรึง ปลาบปลื้มกับฉากนี้จริงๆ ส่วนตัวคิดว่าเป็นฉากไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้เลย

-         เพลง Once upon a dream ร้องโดย Lana Del Rey นักร้อง Gothic ที่ร้องได้สยองมาก

-         เรื่องนี้ทำให้รู้จักมาลิฟิเซนท์มากขึ้น เราได้รู้ว่านางไม่ได้เคร่งเครียดซีเรียสตลอดเวลา นางเป็นคนมีอารมณ์ขันนะ ยิ่งฉากสนทนากับอีกาคู่ใจ

-         ชอบมุขหน้าตายของเรื่องนี้มาก

-         ความจริงตอนรู้ว่าทำไมมาลิฟิเซนท์ถึงโกรธแค้นพระราชาขนาดนั้น แอบเชียร์ให้นางร้ายให้สุดขั้ว ดาร์กลึกๆไปเลยให้สมกับที่มันมาหลอก


-         เข้าใจนะว่าเรื่องอยากจะเล่นกับประเด็นของ True love แบบแม่ลูก แต่ส่วนตัวคิดว่าการที่เจ้าชายจุมพิตเจ้าหญิงนิทราแล้วฟื้นมันอมตะเกินกว่าจะบิดเบือนอะ ใครที่เคยดู Frozen แล้วจะเดาทางออกตั้งแต่เนิ่นๆและ Frozen เล่นกับประเด็นนี้ได้ดีกว่า เราลองคิดเล่นๆว่ามันจะดีกว่านี้ถ้าเจ้าชายเป็นคนถอนคำสาปแต่ออโรร่าแกล้งหลับเพราะรู้ว่ามาลิฟิเซนท์อยู่แถวนั้นและอยากรู้ว่านางจะพูดอะไร (นางเคยบอกว่า your shadow follows me everywhere) มาลิฟิเซนท์ไม่ต้องเป็นคนปลุกออโรร่าจากนิทรา เราก็รู้แล้วว่านางรักออโรร่าจะตาย (ตั้งแต่ช่วยไว้ตอนนางวิ่งตกหน้าผา) ขนาดเป็นลูกคนที่ทำให้นางเจ็บขนาดนั้น


-         ประเด็น you can’t marry a guy you just met for a day ก็ถูกเอามายำใส่ไว้ในเรื่องนี้ด้วย คือเจ้าชายกับออโรร่ามันจะรักกันในวันเดียวได้ไงวะ เพิ่งเจอกันเอง .....แต่เค้าเป็นเนื้อคู่กันนะยูว หยวนๆน่า เอาดิสนีย์โลกสวยของตรูคืนมา!!!  


-          บางทีท่าไม่มีเรื่อง Frozen ที่เล่นกับสองประเด็นข้างบนไว้แล้ว เราอาจจะปลาบปลื้มสองตีมนี้ก็ได้


-         แอบงงว่ามาลิฟิเซนท์จะแอบตามไปนั่งเฝ้าออโรร่าทำไมตอนแรกๆ มาคิดๆดูแล้วเดาว่านางเป็นคนดีเกินกว่าจะปล่อยให้เด็กคนหนึ่งตายเพราะพี่เลี้ยงนางฟ้ากิ๊กก๊อก


-         ออโรร่า พ่อหล่อนตาย หล่อนไม่เศร้าเลยเรอะ อันนี้หลายคนเคยถามไว้ พอมานั่งตรึกตรองดู อืมมม นางคงไม่มีความผูกพันธ์กับพ่อ เพราะเข้าใจว่าพ่อตายมานาน แถมพอเจอกัน พ่อนางไม่พูดพล่ำทำเพลงขังนางไว้ในห้อง แถมยังจะฆ่าคนที่คอยดูแลนางมาทั้งชีวิตอีก หนำซ้ำถ้ารู้ว่าพ่อนางทำอะไรไว้กับมาลิฟิเซนท์บ้าง นางอาจจะนอยด์กับพ่อตัวเองก็ได้ แต่นะ ถ้าหนังใส่ตัวอักษร a year later อะไรงี้ไว้ มันน่าจะสมบูรณ์มากขึ้น


-         เจ้าชายเรื่องนี้เป็นตัวประกอบ ราชินีก็ด้วย ยังไม่เห็นหน้าชัดๆเลย 555


-         แม่นางมาลี ชั้นพึ่งรู้ว่าเธอเป็นญาติกับแคทวูแมน ใส่ชุดรัดรูปสีดำสู้ตอนท้าย


-         นางฟ้าในเวอร์ชั่นนี้เปลี่ยนชื่อจากเวอร์ชั้นการ์ตูน ตอนให้พรในการ์ตูนเรียงจากนางสีชมพู นางสีเขียว แล้วค่อยนางสีฟ้า แต่ในหนัง นางสีฟ้าให้เป็นคนที่สอง


-         หนังสั้นไปนะ (เอาจริงๆไม่อยากให้มันจบหรอก ฮ่าๆๆๆ) ตอนจบน่าจะยาวกว่านี้นิดนึง
 
คะแนนโดยรวมเอาไป 9/10 ขอบอกว่าถ้าคุณเป็นคนที่โตมากับหนังดิสนีย์ คุณจะไม่ผิดหวังกับหนังเรื่องนี้หรอก เพราะอย่างน้อยคุณจะได้เห็นมาลิฟิเซนท์ในร่างคน


ขอจบบล๊อคนี้เพียงเท่านี้นะคะ

สวัสดีค่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น